1RRL5885-111-620514200030004
145200059068
พระพุทธยี่สิบห้าพุทธศตวรรษ เนื้อดิน ปี 2500
พิธีใหญ่สุดของโลก และประเทศไทย
น่าเก็บสะสมครับ
เปิดบูชาที่ เช่าแล้ว บาท
จัดส่ง EMS ทั่วไทย
พิธีพุทธาภิเษก ก็นับว่ายิ่งใหญ่และเข้มขลังสุดๆ ในยุคนั้น จัดขึ้นถึง 2 วาระ และครบถ้วนตามพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาทุกประการ วาระแรก ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2500 ณ พระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวราราม โดยนำมวลสารศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดมาอธิษฐานปลุกเสก มีพระคณาจารย์มาร่วมพิธีฯ ครบ 108 องค์ วาระที่ 2 วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ.2500 นำพระเครื่องทั้งหมดเข้าพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้งในพระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวราราม มี สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ วัดบวรนิเวศมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีสมัยนั้น เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมสมเด็จพระราชาคณะเจริญพุทธมนต์ 25 รูป พระเกจิคณาจารย์ชื่อดังจากทั่วประเทศร่วมปลุกเสกบรรจุพุทธาคมครบ 108 รูป รวม 2 วาระ เป็นเวลาทั้งสิ้น 6 วัน 6 คืน
เอกสารงานฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ ๑๒-๑๘ พฤษภาคม ๒๕๐๐ ระบุไว้ว่า พระเนื้อชินมีการจัดสร้าง จำนวน ๒,๔๒๑.๒๕๐ องค์ ประกอบด้วย พลวง ดีบุก ตะกั่วดำ ผสมด้วยนวโลหะ คือ ชินหนัก ๑ บาท เจ้าน้ำเงินหนัก ๒ บาท เหล็กละลายตัวหนัก ๓ บาท บริสุทธิ์หนัก ๔ บาท สังกะสีหนัก ๖ บาท ทองแดงหนัก ๗ บาท เงินหนัก ๘ บาท และทองคำหนัก ๙ บาท ตลอดจนแผ่นทองแดง ตะกั่ว เงิน ที่พระอาจารย์ต่างๆ เกือบทั่วราชอาณาจักร ได้ลงเลขยันต์ส่งมาให้ รวมทั้งเศษชนวนจากการหล่อพระในแห่งอื่นๆ รวมหล่อผสมลงไปด้วย
การจัดสร้างพระผง หรือเนื้อดิน มีจำนวน ๒,๔๒๑,๒๕๐ องค์เช่นกัน โดยผสมด้วยเกสรดอกไม้ ๑๐๘ ชนิด ตลอดจนดินจากหน้าอุโบสถจากพระอารามต่างๆ ทั่วราชอาณาจักร และผงพุทธาคมต่างๆ รวมทั้งพระผงต่างๆ แบบของโบราณ และของพระอาจารย์ต่างๆ ที่สร้างไว้แต่โบราณกาล ได้ส่งมาผสมเป็นมวลสารในการสร้างพระในครั้งนี้ด้วย รวมพระทั้ง ๒ เนื้อ ๔,๘๔๒,๕๐๐ องค์
พระเนื้อดินนั้น สวยงามด้วยขนาดสีสันวรรณะมีหลากหลายสี โดยเนื้อดินนำมาจากทะเลสาบสงขลา ดินจากสังเวชนียสถาน 4 แห่ง อันเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธองค์และดินศักดิ์สิทธิ์ จากสถานที่สำคัญทางศาสนาพระเนื้อดินนั้น สวยงามด้วยขนาดสีสันวรรณะมีหลากหลายสี โดยเนื้อดินนำมาจากทะเลสาบสงขลา ดินจากสังเวชนียสถาน 4 แห่ง อันเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธองค์และดินศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ด้วย พระเนื้อดินผสมผงเกสรนี้ มีวลสารที่ประกอบด้วยดินจาก ทะเลสาบสงขลาเกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา เป็นส่วนผสมหลัก เนื่องจากดินที่เกาะยอเนื้อละเอียดมีลายเป็นพรายน้ำในตัวและมีสีเหลืองนวลคล้าย พระซุ้มกอ, พระลีลาเม็ดขนุน โดยนำมาผสมกับผงเกสรดอกไม้ 108 ชนิด แล้วยังมีว่านต่างๆ พร้อมดินหน้าพระอุโบสถ, ดินหน้าพระอารามสำคัญของแต่ละจังหวัด และดินจากบริเวณที่ประดิษฐานพระประธานพุทธมณฑล รวมทั้งดินจากสังเวชนียสถาน 4 ตำบล (ประสูติ-ตรัสรู้-ปฐมเทศนา-ปรินิพพาน) จากประเทศอินเดีย โดยมีผงพุทธคุณจากพระคณาจารย์ 108 รูป ผงพระเครื่องที่ชำรุด เช่น พระสมเด็จวัดระฆัง, พระรอด, นางพญา, ผงสุพรรณ, ซุ้มกอ, กำแพงลีลาเม็ดขนุน, ขุนแผนบ้านกร่าง ฯลฯ รวมทั้ง ผงตะไบพระกริ่งนวโลหะ ของ สมเด็จพระสังฆราชแพ, เจ้าคุณศรี (สนธิ์) วัดสุทัศน์ ดังกล่าวข้างต้น
เนื่องจากการสร้างพระ 25 พุทธศตวรรษ เนื้อดินผสมผง ตั้งโรงงานสร้างขึ้นในบริเวณวัดสุทัศน์ พระเนื้อดินผสมผงก็สร้างด้วยจำนวนมากเท่ากับเนื้อชิน คือ 2,421,250 องค์ ซึ่งพอสร้างเสร็จและนำเข้าเตาเผาก็จะปรากฏเป็นสีที่แตกต่างกัน เช่น ดำ, น้ำตาลไหม้, เทา, เขียว, ขาวนวล, พิกุลแห้ง, หม้อใหม่, ครีม, ชมพู รวมทั้ง เนื้อสองสี (ที่เรียกว่า เนื้อผ่าน) และหากตั้งข้อสังเกตจะเห็นได้ว่าสีขององค์พระจะคล้ายกับพระที่สร้างในยุคโบราณ ทั้ง พระรอด, พระคง, พระเปิม และ พระบาง รวมทั้งพระเนื้อดินเผาสกุล นางกำแพง, ผงสุพรรณ และพระกรุของเมือง อยุธยา เป็นต้น
ประธานฝ่ายสงฆ์ของพิธีกรรม คือ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ วัดบวรนิเวศมหาวิหาร ประธานฝ่ายฆราวาส จอมพล ป. พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรีสมัยนั้น พลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ ประธานฝ่ายจัดสร้างพระพิมพ์ รองประธานฝ่ายจัดสร้างได้แก่ พลตำรวจตรี เนื่อง อาขุบุตร ท่านได้เป็นกรรมการจัดจำหน่ายให้สาธุชนและผู้มีเกียรติทั้งหลายเช่าบูชาไปสักการะ หรือนำติดตัวเพื่อป้องกันอุบัติเหตุร้ายได้อีกด้วย
พิธีกรรม การทำพิธีพุทธาภิเษกปลุกเสกพระเครื่อง ได้นิมนต์พระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิมาทำพิธีถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกนำสิ่งของที่จะสร้างมาทำพิธีพุทธาภิเษกปลุกเสกเสียก่อนครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2500 ณ พระอุโบสถวัดสุทัศน์ มีพระคณาจารย์มาทำพิธีครบ 108 องค์ ต่อมาเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2500 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ได้ทรงพระกรุณาเททอง หล่อพระทองคำ แล้วทรงพิมพ์พระเนื้อดินและชนิดเนื้อชินเป็นปฐมฤกษ์ แต่วันนั้นได้สร้างในบริเวณวัดสุทัศน์เป็นเวลาถึง 3 เดือนเศษจึงแล้วเสร็จ ต่อมาเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2500 ได้ทำพระเครื่องทั้ง 3 ชนิดดังกล่าวแล้ว เข้าพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้งเป็นระยะเวลา 3 วัน 3 คืน รวมเวลาทำพิธีพุทธาภิเษก 2 ครั้ง 6 วัน 6 คืน มีพระเกจิอาจารย์ที่ทางการ ร่วมอาราธนามาปลุกเสก 108 องค์
รายนามพระอาจารย์ปลุกเสกพระเครื่องในงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ ซึ่งได้สร้างเสร็จสิ้นแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดสุทัศนเทพวรารามมหาวิหาร เมื่อวันที่ 2-3 และ 4 พฤษภาคม 2500 รวม 3 วัน มีดังนี้คือ
1. พระครูอาคมสุนทร วัดสุทัศน์ กทม.
2. พระครูสุนทรสมาธิวัตร วัดสุทัศน์ กทม.
3. พระครูญาณาภิรัต วัดสุทัศน์ กทม.
4. พระครูพิบูลย์บรรณวัตร วัดสุทัศน์ กทม.
5. พระครูสุนทรศีลาจารย์ วัดสุทัศน์ กทม.
6. พระครูพิศาลสรกิจ วัดสุทัศน์ กทม.
7. พระมหาสวน วัดสุทัศน์ กทม.
8. พระมหาอำนวย วัดสุทัศน์ กทม.
9. พระปลัดสุพจน์ วัดสุทัศน์ กทม.
10. พระครูวิสิษฐ์วิหารการ วัดชนะสงคราม กทม.
11. พระสุธรรมธีรคุณ (วงษ์) วัดสระเกศ กทม.
12. พระอาจารย์สา วัดราชนัดดาราม กทม.
13. พระปลัดแพง วัดมหาธาตุ กทม.
15. พระวรเวทย์คุณาจารย์ วัดพระเชตุพน กทม.
16. พระครูฐาปนกิจประสาท วัดพระเชตุพน กทม.
17. พระอินทรสมาจารย์ วัดพระเชตุพน กทม.
18. พระครูวินัยธร (เฟื่อง) วัดสัมพันธวงศ์ กทม.
19. พระครูภักดิ์ วัดบึงทองหลาง กทม.
20. พระครูกัลญาณวิสุทธิ วัดดอนหวาย กทม.
21. พระอาจารย์มี วัดสวนพลู กทม.
22. พระอาจารย์เหมือน วัดโรงหีบ กทม.
23. พระหลวงวิจิตร วัดสะพานสูง กทม.
24. พระอาจารย์หุ่น วัดบางขวด กทม.
25. พระราชโมลี วัดระฆัง กทม.
26. หลวงวิชิตชโสธร วัดสันติธรรมาราม กทม.
27. พระครูโสภณกัลญานุวัตร (เส่ง) วัดกัลญาณมิตร กทม.
28. พระครูภาวนาภิรัต (ผล) วัดหนัง กทม.
29. พระครูทิวากรคุณ (กลีบ) วัดตลิ่งชัน กทม.
30. พระครูไพโรจน์วุฒิคุณ (ไพฑูรย์) วัดโพธินิมิตร กทม.
31. พระครูญาณสิทธิ์ วัดราชสิทธาราม กทม.
32. พระอาจารย์มา วัดราชสิทธาราม กทม.
33. พระอาจารย์หวน วัดพิกุล กทม.
34. พระมหาธีรวัฒน์ วัดปากน้ำ กทม.
35. พระอาจารย์จ้าย วัดปากน้ำ กทม.
36. พระอาจารย์อินทร์ วัดปากน้ำ กทม.
37. พระครูกิจจาภิรมย์ วัดอรุณราชวราราม กทม.
38. พระครูวินัยสังวร วัดประยุรวงศาวาส กทม.
39. พระสุขุมธรรมาจารย์ วัดหงษ์รัตนาราม กทม.
40. พระครูพรหมวินิต วัดหงษ์รัตนาราม กทม.
41. พระอาจารย์อิน วัดสุวรรณอุบาสิการ กทม.
42. พระครูวิริยกิจ (โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี กทม.
43. พระปรีชานนทมุนี (ช่วง) วัดโมลี นนทบุรี
44. พระครูปลัดแฉ่ง (หลวงพ่อแฉ่ง) วัดศรีรัตนาราม นนทบุรี
45. พระปลัดยัง (หลวงพ่อยัง) วัดบางจาก นนทบุรี
46. พระอาจารย์สมจิต วัดป่ากะเหรี่ยง ราชบุรี
47. พระอาจารย์แทน วัดธรรมเสน ราชบุรี,
48. พระครูบิน วัดแก้ว ราชบุรี
49. พระอินท์เขมาจารย์ วัดช่องลม ราชบุรี
50. พระธรรมวาทีคณาจารย์ (เงิน) วัดดอนยายหอม นครปฐม
51. พระครูสังฆวิชัย วัดพระปฐมเจดีย์ นครปฐม
52. พระอาจารย์สำเนียง วัดเวฬุวัน นครปฐม
53. พระอาจารย์เต๋ วัดสามง่าม นครปฐม
54. พระอาจารย์แปลก วัดสระบัว ปทุมธานี
55. พระครูปลัดทุ่ง วัดเทียนถวาย ปทุมธานี
56. พระครูบวรธรรมกิจ (เทียน) วัดโบสถ์ ปทุมธานี
57. พระครูโสภณสมาจารย์ (เหรียญ) วัดหนองบัว กาญจนบุรี
58. พระครูวิสุทธิรังษี วัดเหนือ กาญจนบุรี
59. พระมุจลินท์โมฬี (ดำ) วัดมุจลินท์ ปัตตานี
60. พระครูรอด วัดประดู่ นครศรีธรรมราช
61. พระครูวิศิษฐ์อรรถการ (คล้าย) วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช
62. พระครูสิทธิธรรมาจารย์ (พระอาจารย์ลี) วัดอโศการาม สมุทรปราการ
63. พระอาจารย์บุตร วัดใหม่บางปลากด สมุทรปราการ
64. พระอาจารย์แสวง วัดกลางสวน สมุทรปราการ
65. พระครูศิริสรคุณ (แดง) วัดท้ายหาด สมุทรสงคราม
66. พระครูสมุทรสุนทร วัดพวงมาลัย สมุทรสงคราม
67. พระสุทธิสารวุฒาจารย์ (ใจ) วัดเสด็จ สมุทรสงคราม
68. พระอาจารย์อ๊วง วัดบางคณที สมุทรสงคราม
69. พระครูไพโรจน์วุฒาจารย์ (รุ่ง) วัดท่ากระบือ สมุทรสาคร
70. พระครูวิเศษสมุทรคุณ (ฮะ) วัดดอนไก่ดี สมุทรสาคร
71. พระครูลักขิตวันมุนี (ถิร) วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี
72. พระอาจารย์แต้ม วัดพระลอย สุพรรณบุรี
73. พระครูโฆษิตธรรมสาร (ครื้น) วัดสังโฆ สุพรรณบุรี
74. พระครูวรกิจวินิจฉัย (พริ้ง) วัดวรจันทร์ สุพรรณบุรี
75. พระครูสัมฤทธิ์ วัดอู่ทอง สุพรรณบุรี
76. พระวรพจน์ปัญญาจารย์ วัดอรัญญิการาม ชลบุรี
77. พระครูธรรมาวุฒิคุณ วัดเสม็ด ชลบุรี
78. พระครูธรรมธร (หลาย) วัดราษฎร์บำรุง ชลบุรี
79. พระอาจารย์บุญมี วัดโพธิ์สัมพันธ์ ชลบุรี
80. พระพรหมนคราจารย์ วัดแจ้งพรหมนคร สิงห์บุรี
81. พระครูศรีพรหมโศภิต (แพ) วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
82. พระชัยนาทมุนี วัดบรมธาตุ ชัยนาท
83. พระอาจารย์หอม (หลวงพ่อหอม) วัดชากหมาก ระยอง
84. พระอาจารย์เมือง วัดท่าแพ ลำปาง
85. พระครูอุทัยธรรมธารี วัดท้าวอู่ทอง ปราจีนบุรี
86. พระครูวิมลศีลาจารย์ วัดศรีประจันตคาม ปราจีนบุรี
87. พระครูสุนทรธรรมประกาศ วัดโพธิ์ปากพลี นครนายก
88. พระครูบาวัง วัดบ้านเด่น ตาก
89. พระครูสวรรควิริยกิจ วัดสวรรคนิเวศ แพร่
90. พระครูจันทร์ (หลวงพ่อจันทร์) วัดคลองระนง นครสวรรค์
91. พระครูศีลกิติคุณ (อั้น) วัดพระญาติการาม อยุธยา
92. พระอาจารย์แจ่ม วัดวังแดงเหนือ อยุธยา
93. พระครูเล็ก วัดบางนมโค อยุธยา
94. พระอาจารย์มี วัดอินทราราม อยุธยา
95. พระอาจารย์หวาน วัดดอกไม้ อยุธยา
96. พระอาจารย์หน่าย วัดบ้านแจ้ง อยุธยา
97. พระครูประสาทวิทยาคม (นอ) วัดกลางท่าเรือ อยุธยา
98. พระอาจารย์จง (หลวงพ่อจง) วัดหน้าต่างนอก อยุธยา
99. พระอธิการเจาะ วัดประตูโลกเชษฐ์ อยุธยา
100. พระอาจารย์ศรี วัดสระแก อยุธยา
101. พระสุวรรณมุนี วัดมหาธาตุ เพชรบุรี
102. พระครูสุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี
103. พระครูพิบูลย์ศีลาจารย์ วัดโพธิ์กรุ เพชรบุรี
104. พระครูทม (หลวงพ่อทม) วัดสว่างอรุณ เพชรบูรณ์
105. พระสวรรควรนายก วัดสวรรคาราม สุโขทัย
106. พระโบราณวัตถาจารย์ วัดราชธานี สุโขทัย
107. พระครูบี้ วัดกิ่งลานหอย สุโขทัย
108. พระครูวิบูลย์สมุทรกิจ วัดเสด็จ สมุทรสงคราม
รายละเอียดเพิ่มเติม : 2
ลงวันที่ อา. 13 มีนาคม 2554 12:18
อภินิหารพระเครื่อง 25 พุทธศตวรรษ ปืนเอ็ม 16 กระหน่ำยิง 30 นัด ไม่ระคายผิว
พระเครื่องราคาสูงหลัก “แสน” หรือหลัก “ล้าน” ก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะ “เข้มขลังตามมูลค่า” ขณะที่ราคาพระเครื่องหลัก “ร้อย” หรือหลัก “พัน” อาจมีพุทธานุภาพสูงส่งก็ได้เพราะไม่มีอะไรเป็นเครื่องวัดได้ ซึ่งผิดกับความร้อน-หนาวที่วัดได้ด้วย “เทอร์โมมิเตอร์” แต่สิ่งเดียวที่พอจะวัดได้ก็คือ “ประสบการณ์” เพราะเป็น “ปรากฏการณ์” ให้พบเห็นทั้งในอดีตและปัจจุบันอยู่เสมอ “เหนือลิขิต ประกาศิตฟ้าดิน” ฉบับนี้จึงขอนำท่านผู้ อ่าน “อ่านความจริง...อ่านเดลินิวส์” ย้อนกลับไปพบกับข่าวหนึ่งบนหน้าหนังสือพิมพ์ “เดลินิวส์” ที่ได้บันทึกเหตุการณ์เป็นข่าวที่สุดตื่นเต้นเป็นการพิสูจน์ถึงอภินิหารของ “พระเครื่อง ๒๕ พุทธศตวรรษ” ที่ปัจจุบันยังมีให้บูชาในราคาไม่สูงเกินไปนัก
โดยหนังสือพิมพ์ “เดลินิวส์ ฉบับที่ ๙,๔๗๐ ประจำวันศุกร์ที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๘” ได้เสนอข่าวถึงเรื่องราวปาฏิหาริย์ของ “พระเครื่อง ๒๕ พุทธศตวรรษ” ที่มีรายงานข่าวจาก จังหวัดพัทลุง ว่าเมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๑๘ เวลา ๐๔.๓๐ น. นายสืบศักดิ์ แกล้วทนง อายุ ๒๓ ปี บ้านอยู่หมู่ที่ ๒ ต.ป่าพยอม อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับจากดูโขนสดและภาพยนตร์ที่ วัดป่าพยอม เพื่อกลับบ้าน ขณะขับขี่ไปถึง ตลาดป่าพยอม เกิดไปเฉี่ยวเอาราษฎรหน่วยปฏิบัติการพิเศษ “ชุดล่าสังหาร” ผู้หนึ่งที่ทาง “ทหาร ผส.๕ ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่” มาจัดตั้งหน่วยขึ้นที่ ต.ป่าพยอม อ.ควนขนุน
เพื่อทำหน้าที่ปราบปรามผู้ก่อการร้ายในพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งกำลังเดินกลับ เข้าค่าย จำนวน ๔ คน ราษฎรหน่วยปฏิบัติการพิเศษ “ชุดล่าสังหาร” ผู้ที่ถูก “นายสืบศักดิ์” ขับรถเฉี่ยวจึงตะโกนบอกให้ “นายสืบศักดิ์” หยุดรถแต่ “นายสืบศักดิ์” เป็น “คนหูหนวก” จึงไม่ได้ยินเลยไม่หยุดรถ “หน่วยล่าสังหาร” ผู้นั้นจึงรัว “ปืนเอ็ม ๑๖” เข้าใส่ “นายสืบศักดิ์” ที่ยังขับรถทั้งหมด ๓๐ นัด กระสุนปืนพุ่งเข้าหา “นายสืบศักดิ์” เต็มแผ่นหลังจนตกลงจากรถจักรยานยนต์ หน่วยล่าสังหารทั้ง ๔ นายจึงกรูเข
หนังสือ “พุทธมณฑลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ มหาราช” หน้า 111-112 ได้บันทึกเหตุการณ์ครั้งนั้น ความว่า…
“วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2500 เวลา 16 นาฬิกา 30 นาที พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตรมหาราช เสด็จฯ มายังวัดสุทัศนเทพวราราม เสด็จฯ ขึ้นบนพระวิหารทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระศรีศากยะมุนี แล้วเสด็จฯ ไปยังพระอุโบสถทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย สมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะ ถวายศีลจบแล้วเจริญพระพุทธมนต์ ทรงจุดเทียนมหามงคล โหรบูชาฤกษ์ เวลา 17 นาฬิกา 8 วินาที ถึงเวลา 17 นาฬิกา 17 นาที เสด็จฯ ไปยังมณฑลพิธีหน้าพระอุโบสถทรงเททองหล่อ “พระพุทธรูปทองคำแบบพุทธลีลา 4 องค์” และทรงพิมพ์ “พระเครื่องฉลอง 25 พุทธศตวรรษ” ชนิด “พระเนื้อดินผสมผงเกสร 30 องค์” เป็นปฐมฤกษ์ โหรลั่นฆ้องชัย เจ้าพนักงานประโคมสังข์แตร และดุริยางค์ สมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะ 25 รูป เจริญชัยมงคลคาถาพระราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณหลั่งน้ำพระมหาสังข์ เสด็จฯ กลับเข้าพระอุโบสถ สมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะ ถวายอดิเรกจบแล้วเสด็จฯ กลับ พระสงฆ์ 25 รูป เจริญพระพุทธมนต์จบแล้ว “พระคณาจารย์ 108 รูป” นั่งปรกปลุกเสกบรรจุพุทธาคมต่อตลอดคืน”
จากบันทึกการจัดสร้าง “พระเครื่องฉลอง 25 พุทธศตวรรษ” ได้ระบุชัดเจนว่า ประกอบพิธี ณ วัดสุทัศนเทพวราราม ทั้งหมดตั้งแต่การเสด็จฯ ทรงประกอบพิธีเททองหล่อ “พระพุทธรูปลีลาทองคำ 4 องค์” และทรงกดพระพิมพ์เนื้อดินเป็นปฐมฤกษ์จำนวน 30 องค์ จากนั้นอีก 3 เดือน หลังการจัดสร้างพระครบตามจำนวนแล้วคณะกรรมการจึงจัดพิธีพุทธาภิเษกที่พระวิหารพระศรีศากยมุนี โดยมีพระคณาจารย์ชื่อดัง 108 รูป นั่งปรกปลุกเสกภายในวิหารคด
กล่าวได้ว่าในสมัยรัตนโกสินทร์ ไม่มีพิธีกรรมการจัดสร้างพระเครื่องครั้งใดที่ยิ่งใหญ่เฉกเช่นพิธีสร้าง “พระฉลอง 25 พุทธศตวรรษ” เมื่อปี พ.ศ.2500 อีกแล้ว
ด้วยเป็นการสร้างจำนวนนับล้านองค์ และเป็นการสร้างด้วยเจตนาบริสุทธิ์ อีกทั้ง พระเกจิคณาจารย์ ที่เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกมากถึง 108 รูป
พระเครื่องฉลอง 25 พุทธศตวรรษ ประกอบด้วย
1. พระลีลา 25 พุทธศตวรรษ เป็นพระพุทธรูปบูชา ปางลีลา ขนาดความสูง 10 นิ้ว ใต้ฐานบัวลงไปเป็นฐานอีกชั้นหนึ่งประทับด้วยตราครุฑ ฝีมือการออกแบบปั้นโดยศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยศิลปากร
2. เหรียญพระลีลา 25 พุทธศตวรรษ จัดสร้างเป็นเนื้อทองคำ เนื้อชิน เนื้อเงิน
3. เหรียญเสมาพระลีลา 25 พุทธศตวรรษ เนื้อทองคำ
4. พระลีลา 25 พุทธศตวรรษ เนื้อแร่ (ผสมผงตะไบพระกริ่งวัดสุทัศน์)
ทั้งนี้ “พระเครื่องฉลอง 25 พุทธศตวรรษ” ที่จัดสร้างทุกเนื้อและทุกแบบ มีจำนวนรวมกัน ทั้งสิ้น 4,842,500 องค์
นอกจากให้ประชาชนได้เช่าบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลและนำรายได้ไปสมทบทุนสร้างพุทธมณฑลแล้ว ยังนำไปบรรจุกรุตามวัดและศาสนสถานสำคัญต่างๆ เพื่อสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา
จํานวน 4,842,500 องค์ มีความหมาย คือ
1. เลข 4 ในหลักล้าน เป็นจุดเริ่มต้นมีความหมายว่า “สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าพระบรมศาสดาเอกของโลก” ทรงตรัสรู้ “อริยสัจสี่” คือ “ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค” คือหลักความเป็นความจริงอันเป็นสิ่งประเสริฐทำให้ห่างไกลจากศัตรูซึ่งก็คือ (กิเลส)
2. เลข 8 และเลข 4 ในหลักแสนและหลักหมื่น มีความหมายว่า “พระอริยสัจสี่” (ความจริง 4 ประการของพระอริยเจ้า) ที่สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ ขออธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือจำนวน 84,000 พระธรรมขันธ์ ตรงกับความจริงอันประเสริฐ (4 ประการ) ที่สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ แต่ต้องการให้จำนวนตัวเลขปิดท้ายตรงกับจำนวน พระพุทธศาสนายุกาล (อายุของพระพุทธศาสนา) 5,500 ปี จึงขยับเลข 8 มาอยู่ที่หลักแสน และเลข 4 มาอยู่ที่หลักหมื่น
3. เลข 2 และเลข 5 ในหลักพันและหลักร้อย ก็คือจำนวนปีที่พระพุทธศาสนายุกาล (อายุของพระพุทธศาสนา) ได้ยืนยงดำรงคงอยู่มาถึง 2,500 ปี แสดงให้เห็นว่า “พระอริยสัจสี่” หรือ “ความจริงอันประเสริฐ” ที่สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า พระบรมศาสดาเอกของโลก ทรงตรัสรู้ด้วยพระองค์เองและทรงนำมาประกาศสั่งสอนเผยแพร่ภายในระยะเวลา 45 ปีแห่งพระชนม์ชีพของพระองค์ ได้มีอายุยืนยาวมาถึง 2,500 ปีแล้วภายหลังพุทธปรินิพพาน เป็นต้นมา
พระเครื่องฉลอง 25 พุทธศตวรรษ ได้มีการนำไปบรรจุกรุตามพระอารามสำคัญทั่วพระราชอาณาจักร 1,601,474 องค์ นอกจากนั้น ให้ประชาชนบูชา 3,240,846 องค์ นับเป็นจำนวนมากมายมหาศาล