ประวัติพอสังเขป

หลวงปู่อุ้ย   ศิริปัญโญ วัดคลองคล้า  

ตำบลพุทธบาท  อำเภอชนแดน  จังหวัดเพชรบูรณ์

ศิษย์ผู้สืบทอดวิชาของหลวงพ่อเขียน  สำนักขุนเณร 

หลวงพ่อหวาน  วัดคลองคล้า  หลวงพ่อพวง  วัดน้ำพุฯ

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

           หลวงปู่อุ้ย  วัดคลองคล้า  พระเกจิอาจารย์ที่เรืองวิทยาคมแห่งเมืองมะขามหวาน มีพลังจิตเข้มขลัง วิทยาคมแก่กล้า ชาวบ้านต่างเรียกขานนามท่านว่า หลวงตาอุ้ย หรือ หลวงปู่อุ้ย  ปัจจุบันอายุ 84 ปี 30 พรรษา

 

  อัตโนประวัติ  หลวงปู่อุ้ย ศิริปัญโญ ( มีรัตน์ ) กำเนิดที่บ้านคลองลำภู พ.ศ.2474  หมู่ที่ 2  ตำบลภูมิ  อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร  เป็นบุตรของคุณพ่อเชื้อ  มีรัตน์  คุณแม่พริ้ง จันทร์   มีพี่น้องร่วมอุทร 7  คน หลวงปู่อุ้ย เป็นบุตรคนที่ 2  ในวัยเด็กนั้นหลวงปู่อุ้ยช่วยพ่อแม่ประกอบอาชีพทำไร่ทำนา คุณพ่อ คุณแม่จะมอบหมายให้ท่านเลี้ยงน้องอยู่บ่อยๆ เพราะอุปนิสัยท่านเป็นคนใจเย็น มีเมตตา  ในวัยเด็กท่านชอบการศึกษาหาความรู้ตั้งแต่ยังเล็ก แหล่งความรู้ในสมัยก่อนนั้นจะอยู่ที่วัด พออายุได้  16  ปี อาของท่านจึงได้ชวนเข้าวัดมาเรียนหนังสือ ศึกษาธรรมะ มาพักอยู่ที่สำนักขุนเณร  และได้นำไปฝากฝังไว้กับหลวงพ่อเขียน   ซึ่งตอนนั้นอาของท่านเป็นเจ้าอาวาส วัดสำนักขุนเณร  และยังเป็นศิษย์องค์สำคัญของหลวงพ่อเขียนอีกด้วย  หลวงพ่อเขียน เป็นพระอภิญญา ท่านได้สั่งสอนถ่ายทอดสรรพวิชาให้ท่านมากมาย กล่าวกันว่า หลวงพ่อเขียน  วาจาท่านศักดิ์สิทธิ์ ไปมาไร้ร่องรอย อยู่กลางฝนแต่ไม่เปียกฝน เสกดินเป็นวัวธนูไล่โจร  ให้หวยแม่น  ระหว่างที่เรียน เขียน อ่าน การเจริญภาวนา ได้ติดสอยห้อยตามหลวงพ่อเขียน ไปงานต่างๆ อยู่หลายครั้ง ได้พบเจอพระเกจิอาจารย์มากมาย  มีโอกาสได้พบเจอ ก็ได้ขอความรู้ติดตัว   พอท่านเติบโตเป็นหนุ่มใหญ่   มีครอบครัว ท่านได้แต่งงานกับคุณแม่ละม่อม มีบุตร 6  คน  ต่อจากนั้นคุณแม่ละม่อมเสียชีวิต  ท่านเบื่อทางโลกจึงหันมาบวชเมื่อปี  2530 จนถึงปัจจุบัน  ตอนนั้นมีพระครูพัชระโสภณ ( โสดา ) เป็นพระอุปัชฌาย์  พระอาจารย์ทองใบ เป็นพระกรรมวาจาจารย์  และพระอาจารย์บุญเรือง เป็นพระอนุสาวนาจารย์   มีฉายาทางธรรมว่า  “  ศิริปัญโญ  ”  เมื่อบวชเป็นภิกษุสงฆ์แล้วท่านได้มาจำวัดอยู่วัดคลองคล้า ได้ศึกษาวิชากับอยู่กับหลวงพ่อหวาน  ณ  วัดคลองคล้า ในละแวกบ้านนี้ท่านเป็นสุดยอดของพระอภิญญาเลยทีเดียว  หลวงพ่อหวานท่านร่ำเรียนวิชามามากหลายเกจิอาจารย์ ยังเป็นน้องชายของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ตลอดการบวชของหลวงพ่อหวานท่านถือเดินธุดงค์ตลอดชีวิต  หลวงปู่อุ้ย ท่านได้ศึกษาธรรมะและวิทยาคมต่างๆ ตลอดตามไปธุดงค์กับหลวงพ่อหวาน อยู่หลายครั้ง เจอประสบการณ์มานับไม่ถ้วน หลวงพ่อหวาน ท่านเสกปลัดวิ่งทวนน้ำ เสกปลัดกระโดดบาตร มีเรื่องราวความขลังและประสบการณ์พูดกันไม่จบ หลวงปู่อุ้ยตลอดการบวชนั้นก็ไม่เคยห่างจากตำราความรู้ทั้ง ตำรายาสมุนไพร ตำราการครูบาอาจารย์ ศึกษาวิชาที่หลวงพ่อเขียนที่มอบให้   ศึกษาตำราเก่าของหลวงพ่อทบ หลวงพ่อพวง  ศึกษาวิชาอาคมวิปัสสนากรรมฐานแต่ละกองจึงเห็นทุกอย่างล้วนไม่เที่ยง เป็นอนิจจัง ล้วนอนัตตา นี่เองสัจธรรมในโลก สิ่งที่ได้มาทั้งหมด ก็นำมาช่วยเหลือญาติโยม ที่หนีร้อนมาพึ่งเย็น  ช่วยปลดทุกข์ ปลดหนี้ ด้วยคติธรรมเฉพาะของท่าน  ท่านจึงเป็นพระสงฆ์ที่ญาติโยม ศรัทธากันมาก

มีผู้ถามหลวงปู่อุ้ยว่า  “ อยากสึกไหม  ”  หลวงปู่อุ้ย ท่านตอบว่า “ จะสึกไปทำไม  ทางโลกมันวุ่นวาย  อยู่ปฏิบัติธรรมดีกว่า  ขออยู่ตายคาผ้าเหลือง   ”  เรื่องวิชาความรู้ การรู้แจ้งเห็นจริงนั้น  หลวงปู่อุ้ย  จึงได้วิชาในสายหลวงพ่อเขียนมาอย่างเอกอุ  พุทธาคมนี้หลวงปู่อุ้ยไม่เป็นสองรองใคร แต่ท่านไม่พูด ท่านเงียบเฉยเหมือนหลวงตาเฝ้าวัด  ประกอบกับวิชาอาคมที่หายากอีกมากมายจาก หลวงพ่อหวาน วัดคลองคล้า อดีตเจ้าอาวาสเรืองอาคม  แม้แต่หลวงปู่พวง วัดน้ำพุฯ พระเกจิชื่อดังแห่งเมืองเพชรบูรณ์อีกรูปหนึ่ง ยังมีความสนิทสนมถูกอัธยาศัยกับหลวงปู่อุ้ย ส่วนหลวงปู่อุ้ยยังเคยไปอยู่จำพรรษาที่วัดหลวงปู่พวง หลายครั้ง  หลวงปู่พวงท่านเป็นพระรุ่นพี่   หลวงปู่อุ้ยท่านเคารพนับถือหลวงปู่พวงมาก เสมือนเป็นอาจารย์อีกองค์หนึ่ง  หลวงปู่พวงท่านสอนวิชาอาคมให้หลวงปู่อุ้ยจนหมด เวลามีงานปลุกเสกวัตถุมงคลหลวงปู่พวง ฐานวโร    หลวงปู่อุ้ย ศิริปัญโญ จะต้องมาทุกครั้ง  หลวงปู่พวง วัดน้ำพุฯท่านเป็นศิษย์รักของหลวงพ่อทบ แห่งวัดชนแดน  ได้ร่ำเรียนจากหลวงพ่อทบมาหมดทุกแขนง  หมดไส้หมดพุง   เมื่อเรียนจากหลวงพ่อทบหมดแล้ว หลวงพ่อทบยังพาหลวงปู่พวงไปฝากฝังไว้กับหลวงพ่อเขียน สำนักขุนเณรไว้หลายพรรษา  ขนาดหลวงปู่ละมัย สวนสมุนไพรบ้านกล้วย สหธรรมมิกหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน ท่านยังรับรองหลวงพ่อพวง วัดน้ำพุท่านเป็นพระเหนือโลก     

 ตอน ที่หลวงตาแคล้ว  วัดหนองเล้าไก่  ยังมีชีวิตอยู่  คนมาขอพระเครื่อง ท่านยังบอกว่า “   ที่เพชรบูรณ์ หมดหลวงพ่อพวง ต้องไปหาพระอาจารย์อุ้ย วัดคลองคล้า เขาเก็บไว้หมด   ”  

 บวชพระมาก็หลายพรรษา  หลวงปู่อุ้ย  ท่านก็ยังไม่เคยสร้างพระเครื่องของตัวเองสักที   มีแต่ไปปลุกเสกให้กับวัดอื่นเค้า บางทีก็มีพระเครื่องที่ลูกศิษย์ห้อยคอ ปลดลงมาให้เสกให้ก็เท่านั้น       “ สมัยก่อนเขานิมนต์ไปปลุกเสกพระ  ทางวัดเจ้าภาพเขามอบพระแจกมาให้ 1 ถุง ฉันก็เอามาแจกบ้าง ก่อนแจกฉันก็เสกอยู่นาน  ไม่แน่ใจ  ยกไปให้อาจารย์หวาน  ท่านเสกให้  พอเปิดกล่อง  ท่านก็บอกว่า ฉันเสกไม่เข้าแล้ว   ท่านเสกจนจะบินแล้วนี่  ”          “  ฉันก็ยัง  ไม่แน่ใจ เอาอีก  เอาไปให้หลวงพ่อพวง  วัดน้ำพุ  ท่านเสกให้  ท่านหยิบเท่านั้นแหละ  ท่านกำพระไว้  ยกขึ้นเหนือหัวท่านเลย  หาว่าเรามาล้อท่านเล่น  ท่านว่า  เสกจนหมุนได้แล้วจะให้ผมทำอะไรอีก  ” 

  ทุกวันนี้หลวงปู่อุ้ย  ศิริปัญโญ มีลูกศิษย์ไปมาหากันทุกวันเลย  ผีเข้าเจ้าสิงที่ไหนรักษาไม่หายพามาหาหลวงปู่อุ้ย ท่านช่วยได้  ไปให้ท่านรดน้ำมนต์บ้าง  อาบน้ำมนต์บ้าง  เพื่อเป็นสิริมงคล   ท่านจะทำน้ำมันว่านเพื่อแก้โรคต่างๆ   แม้นหมู่บ้านอื่นยังมาให้ท่านสงเคราะห์อยู่เสมอ เช่น  หมู่บ้านโป่งตาเบ้า  หมู่บ้านลาดน้อย  หมู่บ้านน้ำพุ  หมู่บ้านห้วยงาช้าง  และอีกหลายๆหมู่บ้าน หากทุกท่านได้มากราบหลวงปู่อุ้ย ทุกท่านจะเลื่อมใสศรัทธามากครับ ท่านชอบปฏิบัติธรรม ลด ละ  กิเลส  มีเมตตา ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ  

 ในด้านถาวรวัตถุ  ทางวัดมี กุฏิพระ  ศาลาการเปรียญ  เมรุ  แต่ชำรุดทรุดโทรม ต่อไปต้องมีการบูรณะใหม่ หลวงปู่อุ้ย เป็น ยอดพระเกจิที่ชาวเมืองเพชรบูรณ์ ให้ความเลื่อมใสศรัทธา ท่านเป็นคนเงียบ ไม่พูด ไม่คุย แต่ชาวเมืองเพชรบูรณ์ทราบดีว่า พระรูปนี้เป็นยอดพระเกจิที่เข้มขลังขนานแท้ ท่านสืบพุทธคุณสายลุ่มน้ำป่าสักและสายพิจิตรมาอย่างครบถ้วน

 เมื่อไม่นานมานี้ขณะที่เจริญสมาธิกรรมฐาน หลวงปู่อุ้ย  เห็นหลวงพ่อพวง  มาปรากฏในนิมิต  ท่านส่งยิ้มให้  พร้อมกับว่าอย่าลืม ...อย่าทิ้งลูกหลานเน้อ  วิชาที่อาจารย์สอนมา  นำมาใช้  ช่วยได้   พอหลวงปู่อุ้ย  ท่านลืมตาตื่นขึ้นมา  ท่านได้นั่งนึก  ถึงหลวงพ่อหวาน  อดีตเจ้าอาวาสวัดคลองคล้า และ  หลวงพ่อพวง  วัดน้ำพุ  ท่านได้สร้างปลัดไม้  ได้เข้มขลังหาใครทัดเทียมได้  (ในสายตาของหลวงปู่อุ้ย )    ท่านจึงคิดจะสร้าง  คุณปลัด พ่อเนื้อหอม  ออกมาให้ญาติโยมได้ทำบุญ   วัตถุมงคลอีกอย่างก็คือ  พระอุปคุต  ท่านเห็นว่ากำลังบารมีพระอุปคุต มีคุณวิเศษกล่าวได้ไม่จบสิ้น คอยช่วยพระศาสนามาจนถึงทุกวันนี้  หลวงปู่อุ้ยท่านทราบมาว่า  ทางอีสานมีพระคุณเจ้ารูปหนึ่งได้สร้างพระอุปคุตได้ดีที่หนึ่ง  จากนั้นก็หาผู้สร้างได้ขลังแบบนี้หามีไม่   ยังไม่เจอ   วันนี้ท่านจึงจะสร้าง   พระอุปคุต  ให้เกิดขึ้นทางภาคเหนือ  คือจังหวัดเพชรบูรณ์นี่เอง  ท่านให้ชื่อว่า   “ พระอุปคุตมหาเศรษฐี  ชนะมาร  ”   ให้คนที่บูชา  มีกิน มีใช้  ไม่อดยาก หากินคล่องตัว  ศัตรูหมู่มารแพ้สิ้นซาก ใครคิดร้าย คิดไม่ซื่อ จะอยู่ไม่นาน ของต่ำของชั่วคุณไสย  กระดอนกระเด็นกลับหมด สิ่งที่สาม คือตะกรุดจารมือ เรียกว่า  ตะกรุดมหาลาภ ชื่อก็ตรงๆตัว มหาลาภ          

 ครั้งนี้หลวงปู่ดำริให้สร้างวัตถุมงคลรุ่นหนึ่งของท่าน               

 เพราะท่านต้องการสร้างวิหารทรงจตุรมุขหลวงปู่พวง  ที่วัดน้ำพุสามัคคี ให้แล้วเสร็จ

 โดยเหรียญรุ่นหนึ่งหลวงปู่อุ้ย  ตลอดจน  พระขุนแผนทิพย์มนต์   พระสมเด็จพุทเธ

 หลวงปู่อุ้ย ท่านกล่าวว่าจะสร้างให้เข้มขลัง ให้ผู้นำไปใช้บูชา ได้พึ่งพาบารมีในพุทธคุณของวัตถุมงคลรุ่นนี้อย่างสูงสุด

 ทางทีมงานจัดสร้าง กรรมการวัดคลองคล้าได้ผลึกกำลังกันจัดสร้างเพื่อให้เป็นสุดยอดมงคลวัตถุ ควรค่าแก่การบูชา

 ให้สมกับเป็นวัตถุมงคลรุ่นหนึ่งของหลวงปู่อุ้ย

 อีกไม่นานเกินรอกับการเปิดตัววัตถุมงคลเหรียญรุ่นหนึ่ง พระขุนแผนทิพย์มนต์ พระสมเด็จพุทเธ

 เตรียมตัวให้พร้อมเร็วๆนี้ครับ พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง

 

*****************************************************************************************

 

เอามาชมบางเนื้อครับ ยังไม่เสร็จสมบูรณ์

อยู่ในขั้นตอนการพิถีพิถันให้สวยงามสุดยอดครับ

 

 

(N) เสียงตอบรับจากศูนย์พระเครื่อง มากมายจริงๆ ครับ แต่ละศูนย์จอง ต่างแจ้งมาว่า ลูกค้ามาสอบถามกันมากมาย บาง 0 ได้ บาง 0 ไม่ได้ เพราะผมไม่ได้จัดยอดนะครับ คณะกรรมการท่านดำเนินการ แต่ผมประสานมาได้นิดหน่อยเท่านั้น วันนี้ ขอนำ ความคืบหน้า มาให้ชมกันสักเล็กน้อย

 

---

 

(N) เหรียญรุ่นหนึ่ง หลวงปู่อุ้ย ศิริปัญโญ พระเถระของเมืองเพชรบูรณ์ หลังท่านได้สร้างพระอุปคุตมหาเศรษฐีชนะมาร ออกมาโด่งดัง ประสบการณ์เกรียวกราวมาแล้ว วันนี้ ท่านได้ออกแบบ จัดสร้างเหรียญ ของท่านขึ้นมาให้ สาธุชนได้ร่วมทำบุญ ห้ามพลาดเด็ดขาด

(N) องค์หลวงปู่่อุ้ย ปั้นอยู่หลายเที่ยว แก้แล้วแก้อีก จากช่างมือหนึ่งของวงการ เส้นสายลายยันต์ออกแบบจากช่างฝีมือเทวดา ตำหรับเฉพาะของหลวงปู่อุ้ย แห่งวัดคลองคล้า นั่นเอง .

(N) พระขุนแผนทิพมนต์ ยอดขุนแผนเทวดา นครพ่อขุนผาเมือง ถิ่นมะขาวหวาน ก่อกำเหนิด ขุนแผน ที่ไม่เหมือนที่ใหน มาก่อน ตามตำราโบราณ

(N) พิมพ์หลัง ขุนแผน พิมพ์ที่ ๑ สำหรับแจกทาน

(N) พิมพ์หลัง ขุนแผน พิมพ์ที่ ๒ พิมพ์บรรจุ พระทุ่งเศรษฐีชนะจน

(N) พระทุ่งเศรษฐีชนะจน

(N) พิมพ์หลัง ขุนแผน พิมพ์ที่ ๓ บรรจุรวมมวลสาร

(N) พระสัมพุทเธหล่อโบราณ

(N) พ่อขุนแผนทิพมนต์ หัวใจสะท้านแสน รวบรวมมวลสารชั้นหนึ่ง หัวใจทุกบาท รวมใจเป็นหนึ่ง เพื่อให้ตนใช้ ไม่ดีไม่ต้องเอาไป .... หลวงปู่อุ้ย วัดคลองคล้า พระผู้เปี่ยมด้วยบารมี

 

---

 

(N) การสร้าง พระขุนแผนทิพมนต์ เริ่มต้นด้วยการหา ดินขุยปู ดิน 7 ท่า ดิน 7 นคร ดิน 7 ป่าช้า ดิน 7 จอมปลวก ดิน 7 โป่ง

(N) ต้องนำมา ชำระล้างให้สอาดที่สุด ร่อน ล้าง ตากแห้ง จนเห็นความละเอียดบริสุทธิ์ อาถรรย์ธรรมชาติ ล้วนมีความขลังในตนเอง

(N) พอได้ความบริสุทธิ์ ต้องนำมาให้หลวงปู่ ท่านอธิฐานจิต 3 ราตรี

(N) " หากไม่ถึงเวลา ไม่สร้าง " จำคำสั่งของหลวงปู่พวง กันได้ใช่มั้ยครับ หลวงปู่พวง ท่านไม่สร้างพระเครื่อง จวบจนเมื่อท่านเห็นสมควร ท่านจึงได้สร้างพระเครื่องออกมาให้ญาติโยมได้ยึดเหนี่ยว ...... หลวงปู่อุ้ย ท่านก็เช่นกัน ท่านไม่เคยสร้างพระเครื่องมาก่อน ท่านบอกผู้เขียนว่า " ญาติโยมที่วัดเคยมาขอให้ฉันทำพระ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ฉันให้รอครบ 84 ซะก่อน ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา ต้องสร้างบารมีให้มันเต็มเสียก่อน ฉันถึงจะสร้างพระของฉันเอาไว้ในพระศาสนา " ตลอดการบรรชาของท่าน ท่านสร้างคุณาประโยชน์เอาไว้มากมาย การออกเทศน์ โปรดญาติโยม การปลุกเสกเลขยันต์ ตามงานพิธีต่างๆ มากมาย สะเดาะเคราะห์อาบน้ำมนต์มาเกือบ 40 ปี ไม่เคยขาด มีคนหลั่งไหลมาขอน้ำมนต์ท่านกันอยู่เรื่อยๆ ท่านก็ทำสงเคราะห์ทุกคน ที่น้ำมนต์ทำไม มีคนมาอาบกันเรื่อยๆ เพราะความขลังของน้ำมนต์ สมัยก่อนผีดุ ผีเข้า น้ำมนต์หลวงปู่อุ้ย ไล่ผีได้ หน้าหมองคล้ำดำมาเลยโดนกระทำ อาบไปวันเดียว กลับมากราบหลวงปู่อุ้ย คุยรู้เรื่อง ร้านค้าพ่อค้าแม่ค้า เอาไปพรหมหน้าร้าน กิจการดีขึ้น น้ำมนต์ดีจริง เปลี่ยนแปลงชีวิตคน เคยมีพวก คนเล่นของ อยากลองดี กับหลวงปู่อุ้ย เห็นว่า รักษาคนได้ จะรักษาตัวเองได้ไหม คืนวันพระมันก็ปล่อยของมาตามลม หลวงปู่อุ้ย ท่านก็รู้สึกได้ว่าจะมีภัยมา ท่านก็สั่งให้พระในวัด เข้ากุฏิให้หมด สวดมนต์เจริญสมาธิ ห้ามออกมาเด็ดขาด คืนนั้น ฝนตกหนักไม่มีปี่มีขลุ่ย ได้ยินเสียงกิ่งต้นมะขามในวัด หักดังโครม รุ่งเช้ามีคนมาตามหลวงปู่อุ้ยไปรักษา หลวงปู่อุ้ย ท่านก็ไป คนที่รอรักษา เห็นหลวงปู่อุ้ย รีบก้มกราบเท้าขอขมา บอกผมผิดไปแล้วครับ อยากลองวิชา ไม่คิดว่าของจะตีกลับขนาดนี้ หลวงปู่อุ้ย ท่านก็ไม่พูด รีบทำน้ำมนต์ให้ดื่ม สามวัน เขาก็หายดี ความเมตตาของพระอริยสงฆ์ มากมายขนาดนี้ครับ