บุญกฐินปีนี้..ร่วมบุญกับหลวงปู่ป่วนที่วัดช้างน้อยกันมั๊ยครับ
ใกล้ออกพรรษาแล้วครับ เราพุทธศาสนิกชนก็เตรียมตัวทำบุญกฐินกันครับ ปีนี้ที่วัดอนุกุญชราราม(วัดช้างน้อย) บางไทร อยุธยาก็เตรียมการสำหรับกฐินปี 58 นี้แล้ว
หลวงปู่ป่วน ถิรธัมโม เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแก่กล้าในพลังจิตพุทธาคมศิษย์ก้นกุฏิสืบสายธรรม จากหลวงปู่เปลี่ยน วัดช้างน้อย , หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอกและหลวงพ่อปานวัดบางนมโค พระเกจิชื่อดังแห่งเมืองกรุงเก่าในอดีต ปัจจุบัน หลวงปู่ป่วน สิริอายุ 93ปี ท่านได้เตรียมพร้อมทั้งมวลสาร แผ่นจาร ลบผงเสกผงอย่างเต็มกำลัง เพื่อจะเตรียมไว้มอบให้กับศิษย์ยานุศิษย์ ตลอดจนผู้ที่เลื่อมใสศรัทธา เพื่อสร้างเป็นวัตถุมงคลในงานกฐินวัดช้างน้อยในปี 2558 นี้อย่างครบถ้วน เพื่อให้เป็นวัตถุมงคลที่เปี่ยมล้นด้วยพุทธานุภาพ ให้ผู้ที่ได้รับวัตถุมงคลของท่านอิ่มเอมใจ อิ่มเอมบุญและเชื่อมั่นในพลังศรัทธาอย่างที่สุด
หากท่านยังไม่รู้ว่า จะทำบุญกฐินที่ใด ก็ขอเรียนเชิญเตรียมความพร้อมและคอยติดตามงานบุญกฐินพร้อมทั้งได้บูชาวัตถุมงคลแห่งบุญกฐิน หลวงปู่ป่วนวัดช้างน้อยอันสุดวิเศษ
กับทีมงานที่สร้างวัตถุมงคล หลวงปู่พวง หลวงปู่จันทร์ หลวงปู่อุ้ย ที่เปี่ยมล้นในคุณภาพ เร็วๆนี้ครับ/////
สร้างกันแบบคอนเซ็ปเดิมๆครับ "สวย น้อย ไม่ให้คอยนาน"











ชีวประวัติ หลวงปู่ป่วน ถิรธัมโม วัดช้างน้อย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา สิริอายุ 93 ปี พ.ศ. 2558
“ หลวงปู่ป่วน ถิรธัมโม ” แห่งวัดช้างน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแก่กล้าในพลังจิตพุทธาคม ศิษย์ก้นกุฏิสืบสายธรรม จากหลวงปู่เปลี่ยน วัดช้างน้อย , หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอกและหลวงพ่อปานวัดบางนมโค พระเกจิชื่อดังแห่งเมืองกรุงเก่าในอดีต ปัจจุบัน หลวงปู่ป่วน สิริอายุ 93ปี
เมืองกรุง เก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งธรรมที่มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั้งเก่าและใหม่ จำนวนมาก สืบสานพุทธาคมจากรุ่น สู่รุ่น “ หลวงปู่ป่วน ถิรธัมโม ” เจ้าอาวาสวัดอนุกุลชราราราม(วัดช้างน้อย) อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธามาอย่างยาวนาน ของชุมชนบางไทรเนื่องจากศีลาจารวัตรที่งดงามบริบูรณ์ประกอบกับความเมตตา กรุณาอันเป็นที่หนึ่งของบ้านบางไทร ใครต่อใครมาขออะไรก็แล้วแต่...ล้วนไม่มีใครที่ไม่ได้รับความเมตตากลับไป เมื่อกลับไปแล้วประสบความสำเร็จ....จะกลับมาเป็นศิษย์ก้นกุฏิกันทุกราย
นอก จากนี้ การให้พร การเป่ากระหม่อมก็ดี การทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ก็ดี การให้พรก็ดี ด้วยวาจาอันศักดิ์สิทธิ์จากจิตที่ตั้งมั่น ทุกคนพูดกันหนาหูว่า “ หลวงปู่ป่วนทำให้ สัมผัสได้ทุกคนล้วนโดดเด่นในด้านเมตตามหานิยมสูงมาก กระแสเมตตาบารมีสัมผัสได้อย่างรวดเร็วอัศจรรย์ ”
หลวงปู่ป่วน วัดอนุกุญชราราม(วัดช้างน้อย) มีนามเดิมว่า ป่วน จิตกระแสร์ เกิดวันเสาร์ เดือน พฤศจิกายน ปี 2465 ที่ ต.ช้างน้อย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา บิดา-มารดา ชื่อ นายเติม และ นางเล็ก จิตกระแสร์ มีพี่น้องร่วมอุทร 6 คน จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 3 ที่โรงเรียนวัดสิงห์ ในสมัยนั้นการศึกษายังไม่ค่อยเจริญ พออ่านออกเขียนได้ เมื่อจบการศึกษาแล้วจึงออกมาช่วยบิดามารดาทำนา
อายุ 20 ปี เข้าอุปสมบทที่วัดช่างเหล็ก มีพระ ครูพิมพ์ วัดช่างเหล็ก จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อจง และหลวงพ่อนิล เป็นพระคู่สวด ได้ศึกษาพระธรรมวินัยและวิทยาคมกับพระครูพิมพ์ วัดช่างเหล็ก เมื่อศึกษาจนหมดไส้หมดพุงแล้ว เพื่อให้เกิดการรู้แจ้งเห็นจริงหลวงพ่อพิมพ์ท่านได้แนะให้ไปหา หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก และ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เพื่อศึกษาเพิ่มเติมในด้านสมถะกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานขั้นสูง จนบังเกิดดวงตาเห็นธรรม จากนั้นท่านจำต้องลาสิกขาบท เพราะเกิดความเป็นห่วงบิดามารดาที่แก่เฒ่าที่ต้องทำนา หลวงพ่อจง ท่านได้ให้ตะกรุดไว้และกล่าวว่า “ ภายภาคหน้ากรุงเก่าจะมีที่ยึดเหนี่ยว รับตะกรุดไว้..วิชาไม่ต้องไปหาที่ ไหนอยู่ที่วัดช้างน้อยหมดแล้ว ” หากมีข้อข้องไขสงสัย หลวงพ่อจงท่านจะแนะนำเปิดวิถีธรรมให้จมหมด
.... หลวงพ่อปาน วัดบางนมโคกล่าวว่า “ดอกบัวจะเบ่งบานเต็มที่เมื่อแก่ตัว.. ” จากนั้นท่านมอบพระให้พร้อมกับมอบยันต์เกราะเพชร การเจริญภาวนากรรมฐานหลวงพ่อปานท่านแนะนำจนแจ้งทะลุทุกปัญญา หลังออกมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพทำนา จากนั้นจึงแต่งงานมีครอบครัว มีบุตร-ธิดารวมกัน 6 คน ช่วงที่ใช้ชีวิตฆราวาส หลวงปู่ท่านชอบเข้าวัดฟังธรรมไปช่วยงานวัดโน้นวัดนี้อยู่บ่อยๆ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก กับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ท่านจะเข้าไปช่วยงานที่สองวัดนี้อยู่เนืองๆไม่ขาด หลวงปู่ป่วนยังได้รู้จักสนิทสนมมีการแลกเปลี่ยนวิชาความรู้ก็มี หลวงพ่อฟ้อน วัดบ้านพาด ผู้สำเร็จวิชาพลังเสือโคร่ง หลวงพ่อเชย วัดบางคล้า พระผู้มีดวงจิตใสดั่งแก้วมณี หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว หลวงพ่อทิม วัดพระขาว พระเกจิชื่อดัง .
หลังจากนั้น หลวงปู่ป่วน ท่านตั้งใจจะบวชตลอดชีวิต ได้กลับมาอุปสมบทอีกครั้ง เมื่อวันที่ 14 กรกฏาคม 2535 ณ วัดอนุกุญชราราม(วัดช้างน้อย) ต.ช้างน้อย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี พระครูวิจิตรนวกรรม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูโสภณบุญญาทรเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ดำรง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา ถิรธัมโม ภายหลังการอุปสมบท หลวงปู่ป่วนท่านตั้งใจพำนัก อยู่วัดช้างน้อยเพื่อศึกษาพระธรรมวินัย ตลอดจนวิชาการต่างๆที่ตกทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
ในสมัยก่อนนั้น หลวงปู่เปลี่ยน อดีตเจ้าอาวาสวัดช้างน้อย ชาวบ้านตลึงเห็นกันทั้งหมู่บ้าน หลวงปู่เปลี่ยน เจริญสมาธิบนก้านกล้วย ต้นสูงท่วมหัว ท่านนั่งได้อย่างไร ?? หลวงปู่เปลี่ยนทำตะกรุดปีละดอกทำเสร็จโยนข้ามแม่น้ำน้อยตะกรุดวิ่งข้ามแม่ น้ำกลับมาตกที่ ท่าน้ำหน้าวัดช้างน้อย หลวงปู่เปลี่ยนเป็นพระที่มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์โด่งดังไปทั่ว หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอกท่านยังมาเป็นศิษย์ขอจำวัดที่วัดช้างน้อย เพื่อขอศึกษาวิชาอาคมกับหลวงปู่เปลี่ยนอยู่หลายพรรษาจนสำเร็จธรรมขั้นสูง จากนั้นจึงได้ถ่ายทอดสู่หลวงปู่ป่วน ตามลำดับ
ด้วยภูมิธรรมความรู้ อันเกิดจากความวิริยะพากเพียร หลวงปู่ป่วน ได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยในด้านพระคันถธุระ วิปัสสนาธุระและวิชาอาคมที่ตกทอดลงมา โดยมองเห็นประโยชน์ในด้านการปฏิบัติ สามารถสอนชาวบ้านได้ การรักษาศีลอันมั่นคงไม่เคยตกหล่นแม้แต่ข้อเดียว และการให้ทานที่เป็นเลิศแก่สาธุชนที่มากราบไหว้จึงเป็นที่เคารพศรัทธาของ ญาติโยมทั้งหลาย ต่อมาเมื่อพระครูโสภณบุญญาทรสิ้นบุญ ทำให้ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดช้างน้อยว่างลง ชาวบ้านต่างเห็นพ้องต้อง กันว่า พระภิกษุป่วน มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส พระอธิการป่วน คณะสงฆ์เห็นควรว่าจะมอบชั้นยศพระครูให้กับหลวงปู่ป่วน เพราะตลอดระยะเวลาการบวช หลวงปู่ป่วน ได้พัฒนาวัดช้างน้อยมาจนรุ่งเรือง แต่หลวงปู่ป่วน ท่านไม่รับตำแหน่งใดๆ ท่านอยากเป็นสมภาร สมถะ เรียบง่าย สันโดษ ไม่ยึดติดใดๆ มีแต่ให้กับให้ ชาวบ้านเรียกท่านว่า พระเวสสันดร เพราะการให้ทุกอย่าง ไม่เคยมีใครไม่ได้อะไรจากท่าน หลวงปู่ป่วนมีอุปนิสัยไม่ค่อยพูดจา เวลามีใครมาสนทนาธรรมด้วย ท่านก็จะแนะนำ บางครั้งท่านก็ไม่ค่อยพูด มักได้แต่ยิ้มและทุกครั้งหลวงปู่ท่านจะให้พรอันประเสริฐว่า “ เจริญ เจริญนะลูกนะ.. ” แล้วจะเป่ากระหม่อมให้ ก่อนกลับทุกครั้ง
หลวง ปู่ป่วน วัดช้างน้อย ได้รับการเรียกขานจากบรรดาศิษยานุศิษย์ที่ให้ความเคารพนับถือว่า "พระเกจิมากด้วยเมตตาแห่งแม่น้ำน้อย"
หลวง ปู่ป่วน วัดช้างน้อย กับ หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
หลวงปู่ป่วนท่านเคยไปวัดบ้านไร่งานมุทิตาจิตหลวงพ่อคูณ พระเกจิอาจารย์มามากมาย หลวงพ่อคูณ ท่านได้เดินมาจูงมือหลวงปู่ป่วน ไปฉันเพลด้วยกันเพียง ๒ รูป ต่างได้สนทนาธรรมเสมือนเคยเจอกันมานานแล้ว
หลวงพ่อคูณท่านบอกว่า “คนอยุธยาพวกมึงไม่ต้องมาหากูดอก...พ่อป่วนของมึงเก่งไม่แพ้กูดอก มึงไปหาท่านที่วัดช้างน้อยเด้อ ! ”
วัดอนุกุญชรารามหรือวัดช้างน้อย เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ ต.ช้างน้อย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ในอดีตวัดแห่งนี้มักมีฝูงช้างป่าน้อยใหญ่เข้ามาอาศัยใบบุญหลวงปู่เปลี่ยน ไม่มีใครกล้าจับ มีหลวงปู่เปลี่ยนองค์เดียวจับช้างได้ทั้งฝูง ทุกวันนี้ไม่มีช้างให้เห็นแล้ว นอกจากรูปปั้น ปูนปั้นที่เป็นตัวแทนให้เห็นเท่านั้น จึงเห็นเป็นวัดธรรมดาเหมือนวัดทั่วไป ภายในวัด มีพื้นที่บริเวณกว้างขวาง สำหรับให้ชาวบ้านได้จัดกิจกรรมต่างๆ ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
หลวงปู่ป่วน ได้สร้างพระเครื่องวัตถุมงคลไว้น้อยมาก อาทิ เบี้ยเศรษฐี ตะกรุดกันภัย ตะกรุดสามกษัตริย์ มีดหมอชาตรี
เบี้ยเศรษฐีขณะนี้โด่งดังไปไกลถึงสิงค์โปลูกศิษย์ชาวสิงค์โปนำไปบูชาติดตัวปรากฏว่าทำแจ๊คพ็อตแตกที่บ่อนเขมร ได้เงินร่วมสิบล้านบาท
มีดหมอชาตรีเมตตาแรงไม่แพ้กันลองเอาไปใช้ไม่กี่วัน หมดหนี้หมดสินวิชานี้ของหลวงปู่แน่ถึงขนาด ได้ใจมาก หลายคนลืมตาอ้าปากได้
ตะกรุดกันภัย สิบล้อชนเด็กกระเด็นตกถนนไปเลย คลานขึ้นมาจากถนนได้ ลุกปัดตูดสองสามที วิ่งกลับบ้านเฉยเลย นี่ของวัดช้างน้อยแรงขนาดใหน รู้กันหมด ลือกันแซด ของดีไม่ต้องไปหาให้ไกล รอจังหวะหลวงปู่ป่วน ท่านจะออกของเมื่อไหร่ รีบตะคลุบกันได้เลย ท่านไม่สร้างง่ายๆ ไม่สร้างบ่อยๆ นะ จะบอกให้ เปิดเมื่อไหร่...เป็นต้องหมดจากวัดทันที !
เหรียญรุ่นแรก ปัจจุบันหาไม่ได้แล้ว เปิดจำหน่ายวันเดียว หมดวัด ! มีประสบการณ์ทั่วจังหวัดอยุธยา คนอยุธยาชอบใจมาก เพราะเรียกโชคลาภได้ตามจิตอธิฐาน วัยรุ่นใช้ตีกันไม่ลงใจมันยอมกัน ข้าราชการในจังหวัดใช้แล้วเจ้านายรักเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งให้ อานุภาพของเหรียญรุ่นแรกหลวงปู่ป่วน
พระขรรค์เกราะเพชร บ้านไหน บ้านนั้นต้องมี อานุภาพเกราะเพชรคุ้มครองครอบจักรวาล ภูตผีปีศาจหนีหมดกลัวพระขรรค์เล่มนี้ คนร้อยเอ็ดเขาว่ามีปอบในหมู่บ้าน ส่งไปรษณีย์มาบูชาพระขรรค์ไปใช้ เอาไปไว้บ้านปอบ ปรากฏว่า ผู้หญิงในบ้านหลังนั้นหวีดร้องลั่นโหยหวน ก่อนจะหนีหายไปจากหมู่บ้าน
สมเด็จขี่สิงห์เนื้อดินเผา เพื่อให้ไว้เป็นตัวแทนและเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางใจ สมเด็จขี่สิงห์ หลวงปู่ป่วน ท่านไม่บอกอะไรมาก ท่านบอกว่า “พระดินเผานี้นะฉันทำตามหลวงพ่อปานและหลวงพ่อจง หากหาพระของหลวงพ่อปาน หลวงพ่อจงไม่ได้ ให้เอาองค์นี้ไปใช้แทนได้ ” สมเด็จขี่สิงห์ต่อไปจะเป็นพระหายาก มีราคาแพง เหมือนพระทรงสัตว์ต่างๆ ของหลวงพ่อปาน หลวงปู่ท่านดำริว่าจะทำพระทรงสัตว์พาหนะต่างๆ ในอากาศต่อไป เพื่อเป็นตัวแทนของครูบาอาจารย์สืบไป
คติธรรมที่หลวงปู่ป่วนท่านมักจะมอบให้ญาติโยม
“ ผิดน้อยบาปน้อย...ผิดมากบาปมาก..อยากมากผิดมาก..อยากน้อยผิดน้อย ”