URRL0009-111-56066540001111199
เหรียญครูบาแบ่ง วัดบ้านโตนด จ.นครราชสีมา
รุ่นสมปรารถนา เนื้อทองแดงลงยาหลังเรียบบจารมือ
 แยกชุดกรรมการอุปถัมภ์ใหญ่
สร้างรวมทั้งหมดเนื้อนี้ 109  เหรียญเท่านั้น
เปิดบูชาที่ 990 บาท
จัดส่ง EMS ทั่วไทย



ครูบาแบ่ง ฐามุตตโม เกิดเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2496  ซึ่งตรงกับวันเสาร์ ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 9 ปีมะเส็ง ที่หมู่บ้านโตนด ตำบลโตนด  อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา จึงถือได้ว่าเป็นชาวโคราชโดยกำเนิด  ชื่อเดิมของท่าน นายเสมา จุ่มกลาง เป็นบุตรของนายมาก จุ่มกลาง กับนางอ่อง  จุ่มกลาง มีพี่น้องชายหญิงรวมกัน 7 คน โดยท่านเป็นบุตรคนที่ 3  ด้วยความที่ครอบครัวของท่านเป็นแพทย์แผนโบราณและเป็นหมออาคมไสยเวทย์  ที่ถ่ายทอดวิชาสืบต่อกันมาแต่ครั้งปู่ย่าตายาย  ทำการรักษาผู้คนในหมู่บ้านและละแวกใกล้เคียงที่เจ็บป่วย  ครั้นเมื่อท่านอายุได้ 12 ปีก็เรียนจบระดับประถมต้นจากโรงเรียนวัดบ้านโตนด  จากนั้นท่านก็ไม่ได้ศึกษาเล่าเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น  แต่ท่านได้เริ่มศึกษาสรรพวิชาแพทย์แผนโบราณ  การรักษาโรคภัยด้วยยาหม้อและสมุนไพร  ท่านมีโอกาสได้ศึกษาอ่านเขียนอักขระขอมตามหลักคัมภีร์โบราณ  และได้รับการถ่ายทอดเวทย์มนต์คาถามหาบทต่างๆจากนายมากผู้เป็นบิดา  จากการที่ท่านตั้งใจรับการถ่ายทอดวิชาความรู้ทางการแพทย์แผนโบราณเป็นอย่าง ดี เมื่อท่านอายุได้ 14 ปีก็สามารถรักษาชาวบ้านให้หายจากอาการเจ็บป่วยได้  บิดาจึงไว้วางใจให้ช่วยรักษาชาวบ้านตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหมอน้อย  ที่ได้รับการนับถือจากชาวบ้านโตนดตั้งแต่เยาว์วัย  เมื่ออายุย่างเข้าวัยหนุ่มชีวิตในวัยนี้ของท่านได้พบกับการเปลี่ยนแปลงครั้ง ยิ่งใหญ่ในชีวิต เมื่อในหมู่บ้านโตนดของท่านมีชีปะขาวผู้หนึ่ง  ซึ่งมีร่างกายสูงใหญ่ผิดจากคนธรรมดา  เดินธุดงค์จาริกแสวงบุญมาปักกลดอยู่ที่ชายป่าท้ายหมู่บ้าน  สอบถามได้ความว่าท่านเดินทางข้ามแม่น้ำโขงมาจากฝั่งประเทศลาว  มีอาศรมถิ่นที่พำนักอยู่ภูเขาควาย ดินแดนที่มีความลี้ลับอาถรรพ์  เป็นป่าดงดิบที่เต็มไปด้วยถ้ำและหุบเขาสูงชันที่ทอดตัวอยู่ทางตอนเหนือของ ประเทศลาว  ที่ภูเขาควายแห่งนี้คือสถานที่ที่พระเกจิอาจารย์ของไทยหลายรูปได้ธุดงค์ไป ถึงมาแล้ว  และที่ภูเขาควายแห่งนี้ก็เป็นตักศิลาวิชาอาคมไสยเวทย์ของชีปะขาวผู้นี้  ท่านมีชื่อว่า”ครูบาสีหราช”   และท่านหมอเทพ จากสาย”สำเร็จลุน” ซึ่งเป็นพระเกจิระดับปรมาจารย์ของประเทศลาว  เมื่อท่านทราบดังนี้จึงเกิดความเลื่อมใส ท่านจึงได้ฝากตัวขอเป็นศิษย์  ออกติดตามรับใช้ครูบาสีหราชในระหว่างที่เดินธุดงค์ในไทย  ทั้งๆที่ท่านยังเป็นเพศฆราวาส  จากนั้นก็เดินทางข้ามฝั่งไทยไปจนถึงอาศรมที่พำนักภูเขาควาย  ท่านได้คอยรับใช้และได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมจากครูบาสีหราชจนสำเร็จในระดับ หนึ่ง ท่านจึงกราบลาครูบาเพื่อเดินทางกลับมายังบ้านโตนดอีกครั้ง พอถึง  พ.ศ.2521 มีอายุได้ 25 ปี ถึงเกณฑ์บวชเรียนศึกษาพระธรรม  ท่านได้กราบลาอุปสมบทที่วัดบ้านโตนด โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือ  “พระครูวัชรญาณวิสุทธิ์” เจ้าอาวาสวัดด่านทองหลาง เจ้าคณะอำเภอโนนสูงในขณะ นั้น ท่านได้รับฉายาทางธรรมว่า “ฐามุตตโม” ซึ่งมีความหมายว่า  “ผู้มีฐานะอันอุดม” เมื่อบวชได้ 4 เดือน หลังจากออกพรรษาในปีนั้น  ท่านได้ปลีกวิเวกเริ่มออกเดินธุดงค์โดยทันที  ด้วยความมีมานะเป็นมุ่งมั่นและมีจิตใจที่แน่แน่ว  ประกอบกับเป็นผู้มีวิชาอาคมติดตัว  หลังจากที่ท่านได้ออกธุดงค์ไปตามที่ต่างๆเป็นเวลา 1 ปี  ท่านมีโอกาสได้พบกับครูบาสีหราชที่อาศรมภูเขาควายอีกครั้งหนึ่ง  จึงได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมจนสำเร็จถึงขั้นสูงสุด  จากนั้นท่านได้เดินธุดงค์ข้ามฝั่งลาวกลับมายังวัดโตนดอีกครั้งหนึ่ง  แต่พอถึง พ.ศ.2523 ครูบาสีหราชได้ละสังขาร  ท่านจึงเดินทางกลับไปยังภูเขาควายและอยู่จัดการศพจนเรียบร้อย  ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ท่านเสียใจมากจนต้องลาสิกขาบทกลับมาเป็นฆราวาส  จากนั้นท่านได้เดินทางไปที่ต่างๆเพื่อค้นหาสัจจะธรรมบางสิ่งให้กับตัวเอง  จนกระทั่ง พ.ศ.2536 ท่านได้รับข่าวบิดาล้มป่วยด้วยอาการอัมพฤกษ์  ท่านได้ทำการรักษาโดยใช้วิชาความรู้ที่มีแต่ก็ไม่สามารถรักษาบิดาให้หายได้  ท่านจึงได้ตั้งจิตอธิษฐานขอบวชแก้บนให้บิดาโดยตั้งใจจะบวชเป็นเวลา 15 วัน  แต่ในระหว่างที่บวชแก้บนอยู่นี้ ท่านได้เห็นความเจ็บป่วยของบิดา  เห็นการเจ็บป่วยล้มตายของชาวบ้าน และเห็นความทุกข์ยากลำบากของชาวบ้าน  ทำให้ท่านได้มีโอกาสได้เข้าใจถึงหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า  จึงเกิดคิดเปลี่ยนใจขออยู่ในร่มกาสาวพักตร์ต่อไป  เพื่อคอยช่วยเหลือญาติพี่น้องและชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน  ให้ได้นำหลักธรรมะมาใช้ในการนำพาชีวิตให้กลับมาดีขึ้นได้ ท่านได้รับการ เรียกขานชาวบ้านและลูกศิษย์ว่า “ครูบาแบ่ง” ด้วยเพราะความใจดี  เมื่อชาวบ้านขออะไรท่านก็ให้โดยไม่หวงหรือยึดติด  จากนั้นท่านก็ได้ออกเดินธุดงค์ตามป่าเขาในประเทศไทยเรื่อยมา  และได้มีโอกาสจำพรรษาร่วมกับครูบากฤษณะซึ่งเป็นศิษย์ของครูบาสีหราชอีกผู้ หนึ่ง จนกระทั่งประมาณปี พ.ศ.2544  ท่านจึงได้ยุติการออกเดินธุดงค์และจำพรรษาอยู่ที่วัดโตนดตั้งแต่นั้นมา  เนื่องจากปัญหาสุขภาพร่างกายและอายุที่มากขึ้น และในปี พ.ศ.2550  ท่านได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์เป็น “พระครูสังฆารักษ์”
การที่ชาวบ้านเรียกขานพระเสมาว่า”ครูบา”นั้น  เป็นเพราะท่านได้ศึกษาธรรมะและวิชาอาคมอยู่ที่ประเทศลาวเป็นส่วนใหญ่  ซึ่งชาวลาวและชาวไทยล้านนาจะใช้ภาษาถิ่นเรียกพระภิกษุที่มีความรู้  และสามารถถ่ายทอดความรู้นั้นให้กับผู้รับการศึกษาจนเข้าใจและสามารถนำไปถ่าย ทอดต่อไปได้อีก ซึ่งถือว่าเป็นอาจารย์ของอาจารย์อีกผู้หนึ่ง
